เทคนิคการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดระดับประถมศึกษา

ทักษะการอ่าน (Reading Skill) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. การอ่านออกเสียง เป็นการอ่านในระดับต้นเพื่อตรวจสอบว่าเด็กสามารถอ่านคำหรือประโยคหรือข้อความได้ถูต้องหรือไม่

2. การอ่านในใจ เป็นการอ่านเพื่อจับใจความหรือเนื้อความที่กำหนดให้ การอ่านในใจเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในชีวิตประจำวัน เนื่องจากทักษะการอ่านในข้อนี้จะต้องนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ 2 ประการคือ

- การอ่านเพื่อการศึกษา

- การอ่านเพื่อความบันเทิง

แม้ว่าการอ่านในใจจะเป็นการอ่านในระดับที่สูงขึ้นก็ตาม แต่การฝึกทักษะการอ่านในใจนั้น ครูควรฝึกให้กับเด็กตั้งแต่เริ่มเรียนภาษา กล่าวคือ ฝึกทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านในใจไปพร้อมๆ กัน วิธีสอนที่จะช่วยให้นักเรียนเกิดทักษะการอ่านมีดังนี้คือ

2.1 ส่งเสริมให้มีการเพิ่มพูนคำศัพท์ ด้วยการหาคำที่คล้ายคลึงกันหรือประเภทเดียวกันรวมกันเป็นกลุ่ม ฝึกให้เดาความหมายคำจากปริบท (Context)

2.2 ช่วยให้นักเรียนเข้าใจโครงสร้างหรือแบบประโยค

2.3 ช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา โดยใช้รูปภาพหรือสื่ออื่นๆ เข้าช่วย

2.4 ใช้คำถามนำ ซึ่งควรเริ่มต้นด้วยคำถามง่ายๆ ก่อน

2.5 ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกการอ่านเร็วโดยวิธีการดังนี้

2.5.1 จับเวลาในการอ่านในใจ

2.5.2 ลดเวลาที่กำหนดให้ในการอ่านข้อความ

2.5.3 ห้ามนักเรียนทำปากขมุบขมิบหรือใช้นิ้วชี้ไปตามข้อความที่อ่าน

2.5.4 บอกวัตถุประสงค์ของการอ่าน

2.5.5 ให้นักเรียนทำสมุดบันทึกความก้าวหน้าในการอ่านเร็ว